Sunday, March 31, 2013

5 สิ่งที่ไม่ควรทำในการนำเสนองาน

เดี๋ยวนี้เรามักจะพบเห็นได้กับการสัมมนาหรือนำเสนอผลงานต่างๆ ที่มีงานให้เข้าฟังอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้เราอยากจะฟังสิ่งแรกนั่นก็คือหัวข้อที่เราจะนำเสนอ เมื่อจูงคนที่จะเข้ามาฟังได้แล้วขั้นตอนที่สำคัญที่สุดก็คือการนำเสนอเนื้อหาตามหัวข้อให้กับผู้ฟังให้ได้น่าสนใจ ซึ่งที่เจอมักจะตกม้าตายกันตรงนี้กันเยอะ บทความแปลนี้่เลยจะเป็นการแนะนำไม่ควรทำทั้งก่อนและระหว่างการนำเสนอ รวมทั้งบอกวิธีป้องกันและแก้ไขไว้ให้ด้วยครับ

อย่างที่ผมบอกไปว่า สิ่งที่พบเจออยู่แบบบ่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่านั่นคือความผิดพลาดในการวางแผนจากการเตรียมตัวและนำเสนอเนื้อหาโดยผู้พูด 5 ข้อนี้เป็นสิ่งที่ต้องระลึกถึงและควรที่จะทำอยู่เสมอเมื่อมีการนำเสนองานต่างๆ ลองมาดูกันครับ

ข้อที่ 1 อาขยาน อ่านกระจุย

การขึ้นไปอ่าน (อาขยาน) ตามเนื้อหาที่มีบน PowerPoint หรือ Keynote เหมือนหุ่นยนต์ นี่เป็นสิ่งที่พบเห็นกันได้อยู่อย่างสม่ำเสมอ (ถ้าพูดถึงก็คือติดอันดับ 1 ตลอดกาล) จากการนำเสนองานของมือใหม่หัดนำเสนอหรือแม้กระทั่งคนที่ไม่ใช่มือใหม่แล้ว ก็ยังเลือกการนำเสนอแบบนี้ ซึ่งถ้าจะพูดไปแล้วก็ไม่ต่างกับการพิมพ์เนื้อหาทั้งหมดมาให้ผู้ฟังเอากลับบ้านไปอ่าน
วิธีแก้ไข
ควรต้องศึกษาเนื้อหาหรือสิ่งที่เราจะนำเสนอให้ดีและถ่องแท้เสียก่อน เนื้อหาบน PowerPoint หรือ Keynote เป็นเพียง Guide นำทางเพื่อเข้าสู่เนื้อหาที่แท้จริงที่เราจะเป็นคนนำเสนอ และเพื่อดึงความสนใจให้กับผู้ฟัง แทนที่

ข้อที่ 2 อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคอมฯ (และอุปกรณ์ทั้งหลาย)

อย่าไปไว้ใจกับอุปกรณ์ที่จะใช้นำเสนอที่แม้เราจะเป็นคนเตรียมเองก็ตาม เพราะเรามักจะเจอกับปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ของเรา หรือแม้กระทั่งเครื่องคอมพิวเตอร์เราเองอาจจะม่องเท่งในเวลานั้นไปดื้อๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น
วิธีแก้ไข
ให้เวลากับอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อการซักซ้อมก่อนที่จะขึ้นไปนำเสนองาน โดยหากสามารถไปที่ห้องที่ใช้ในการนำเสนอได้ก่อนสัก 1 วันล่วงหน้าก็ให้ไปทดสอบอุปกรณ์ก่อนเลย แต่ถ้าไม่สามารถไปที่ห้องนั้นได้ก่อนวันจริง ให้ใช้เวลาก่อนสัก 10-30 นาทีเพื่อที่จะได้ทดสอบเครื่องและหากมีปัญหาจะยังพอมีเวลาในการคิดแผนสองรองรับไว้
ถ้าผมจะแนะนำเพิ่ม สำหรับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นกับไฟล์ อยากให้เก็บไฟล์ไว้ด้วยการส่งเข้าเมล์ตัวเองหรือเก็บไว้บน Cloud ครับ เผื่อป้องกันว่าหากมีเหตุที่ไม่สามารถใช้เครื่องของเราเองได้ ยังสามารถเข้าไปเปิดไฟล์ด้วยเครื่องอื่นๆ ได้ครับ

ข้อที่ 3 อย่านอกเรื่องไปไกล

การที่จะนำเสนองานได้นั้น พื้นฐานสำหรับบางคนก็คือการเป็นคนชอบพูดชอบคุย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะทำให้คนดูไม่น่าเบื่อ แต่สิ่งที่อาจจะคาดไม่ถึงนั่นคือการหลุดจากสิ่งที่จะนำเสนอจริงๆ หรือพูดในสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับหัวข้อที่ตั้งเอาไว้มากจนเกินไป จนอาจทำให้คนที่ตั้งใจจะมาฟังสิ่งที่เขาต้องการนั้นผิดหวัง แถมยังอาจหมดเวลาโดยไม่รู้ตัว ทำให้ผู้พูดไม่ได้พูดสิ่งที่เป็นสาระสำคัญได้ทัน

วิธีแก้ไข
ระลึกอยู่เสมอว่าเรามีหัวข้อในการพูดที่ต้องการจะเน้นหรือ Focus ไว้เป็นที่ตั้ง การพูดให้ชัดเจนในหัวข้อตั้งแต่การปูเริ่มต้นเล่าเรื่อง, แก่นของเรื่อง จนถึงสรุปสุดท้ายของเรื่องว่าเป็นอย่างไร จะช่วยให้คนฟังสามารถเข้าใจและเข้าถึงสิ่งที่ผู้พูดต้องการจะสื่อได้อย่างง่ายๆ รวมทั้งการคำนวณเวลาในการพูดแต่ละหัวข้อว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ด้วยครับ

ข้อที่ 4 อย่าเยอะ!

ฟังชื่อข้อที่ผมตั้งเองแล้วอาจจะดูทันสมัยไปเสียหน่อย ที่ผมหมายถึงก็คือในบางครั้งข้อมูลของผู้พูดเองนั้นมีปริมาณค่อนข้างมาก (ซึ่งผมเข้าใจว่าผู้ที่จะมาพูดก็ต้องมีความเจ๋งในระดับที่เหนือกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว) และก็เข้าใจว่าผู้พูดก็อยากจะพูดในสิ่งที่ตัวเองรู้หรือเตรียมตัวให้กับผู้ฟัง เนื่องด้วยปริมาณข้อมูลที่ป้อนหรือถ่ายทอดออกไปนั้นอาจมีมากจนเกินไป หรือคนฟังเองไม่สามารถรับรู้และเข้าใจได้ ผลที่ตามมาก็คือประเด็นที่สำคัญที่สุดนั้นอาจถูกกลืนจมหายไปกับข้อมูลปริมาณมหาศาลที่วิ่งเข้าไปถาโถมผู้พูด
วิธีแก้ไข
ถ่ายทอดข้อมูลต่างๆ ให้ออกมาในรูปแบบที่เข้าใจง่ายที่สุด ด้วยการใช้คำพูดและประโยคที่สามารถอ่านเพียงครั้งเดียวแล้วเข้าใจได้โดยทันที ซึ่งสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับศาสตร์และเทคนิคในการนำเสนอของผู้พูด ถ้าจะให้ยกตัวอย่างง่ายๆ ที่เห็นภาพชัดที่สุดก็คงเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของทาง Apple ผ่านทาง Keynote ที่เขามักจะดึงเอาข้อความเด็ดๆ มาเพียงไม่กี่คำหรือไม่กี่ประโยคมาบรรยายสิ่งที่เขาอยากจะสื่อ โดยทำให้ทุกคนเข้าใจไปในทางเดียวกันแทบจะทั้งหมด
สำหรับข้อมูลในส่วนที่เป็นส่วนเสริมที่มีความสำคัญรองลงมาจากใจความหลัก ให้เก็บเพื่อนำไปขยายความไว้ในช่วงถามตอบ (Q&A) น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดครับ

ข้อที่ 5 ใช้ตัวอักษรบนหน้าสไลด์ให้น้อยที่สุด

ข้อนี้จะใกล้เคียงกับข้อแรกและข้อที่ 4 คราวนี้มาดูในด้านของการนำเสนอบน Powerpoint หรือ Keynote เพราะมันคือสิ่งที่จะช่วยนำให้ทั้งผู้นำเสนอและผู้ฟังได้รับรู้ว่าจะมีเรื่องราวอะไรถูกพูดถึงบ้าง ซึ่งสิ่งที่เจอในบางครั้งนั้น มีตัวอักษรเต็มไปหมด ก็เข้าใจว่าผู้พูดนั้นอยากจะบอกสรรพคุณหรือบอกสิ่งต่างๆ ที่อยากให้คนอื่นรู้ ซึ่งนี่จะทำให้เกิดปัญหาว่าผู้พูดจะถูกสไลด์ที่มีแต่ตัวอักษรกลืนไปแบบไม่รู้ตัว เพราะผู้ฟังจะเอาแต่สนใจตัวอักษรที่มีอยู่ล้นทะลักในหน้าสไลด์ไปโดยปริยาย…
ลองนึกสภาพแค่ 20 สไลด์ที่ประกอบด้วยตัวอักษรล้วนๆ แค่คิดก็สยองแล้ว…
วิธีแก้ไข
ลดการใช้ตัวอักษร แต่ให้เล่าเรื่องราวหรือแทนคำต่างๆ ด้วยรูปภาพที่สื่อความหมายและเหมาะสมกับสิ่งที่เราต้องการเป็นตัวช่วย วิธีนี้จะช่วยให้สื่อสารกับคนที่ฟังได้ง่ายขึ้น แต่รูปภาพอย่างเดียวก็คงสื่อความหมายของตัวเลขหรือหัวข้อแต่ละอย่างไม่ได้แน่ๆ ดังนั้นโดยส่วนใหญ่เราจะเห็นการใช้รูปภาพประกอบกับเนื้อหาที่เป็นแก่นสารควบคู่กันไป
ตัวอย่างการใช้รูปภาพประกอบกับข้อมูลครับ

ทั้งหมดคือ 5 ข้อดูแล้วคงเป็นสิ่งเบื้องต้นสำหรับผู้ที่จะต้องทำการนำเสนอผลงานของตนที่มีอยู่ หรือใช้ในการสอนหรือการพูดในที่ต่างๆ ได้ สำหรับตัวผมเองก็ต้องยอมรับว่าผมยังทำทั้ง 5 ข้อนี้ได้ไม่ถึง 70% เลย ซึ่งของพวกนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนและประสบการณ์ในการพูดและการจัดการครับ

Tuesday, March 26, 2013

How Does One Change the Date and Time Format?

Applies to:
Oracle Agile Product Data Management for Process - Version: 6.0.0 and later [Release: 6.0.0 and later ]
Information in this document applies to any platform.

Goal
How does one change the date and time format?

Solution
Date and time format is dependent on the adjusted language in the Profiles and Preferences page. Example: If US
English is set, a date is displayed like 4/16/10 and with UK English it will display 16/4/10.
The format cannot be set independently.

วิธีการซ่อนและปรับ Menu ตาม Roles ที่ Assign ให้

วิธีการซ่อนและปรับ Menu ตาม Roles ที่ Assign ให้



ใน File “SiteMap-Extensions.xml” นั้นถูกใช้ในการกำหนด Menu ให้แตกต่างไปตามความต้องการของ Role ที่ Assign ให้แต่ละ User โดยใน Default ของระบบ จะไปดู Configuration มาตราฐานใน Path
Prodika Home> Config>Core>Reference>SiteMap-NPD.xml
ซึ่งถ้าเราต้องการให้มีการ แสดง Menu ตาม Role Assign นั้น แนะนำว่าไม่สมควรแก้ไขที่ Standard SiteMap โดยตรง ขอให้ใช้ SiteMap-Extensions.xml ที่อยู่ใน Path: Prodika Home> Config>Extensions แทน
โดยครั้งนี้เราต้องแก้ไขให้ Menu Template นั้นแสดงแค่เฉพาะ Role [NPDADMIN] เท่านั้น โดยให้เรานำชื่อของ Role ใส่มาที่หลัง Parameter  SecurityProfileRef” เพื่อเป็นการบอกว่า Menu นี้จะแสดงให้ก็ต่อเมื่อมีการ Assign Role ที่ระบุตามที่ระบุไว้ใน User Profile

<MenuItem ID="lblTemplates" DisplayText="--Templates" SecurityProfileRef="NpdAdmin" SkinRef="DefaultWithChildren" TranslationRef="NDPSideBar" Target="" NavigateUrl="" Expanded="false" >
<MenuItem ID="lblActivityTemplates" DisplayText="--Activity Templates" SecurityProfileRef="" SkinRef="DefaultSkin"  NavigateUrl="${dc:NPD}/MainPage/NPD.aspx?ContentKey=ActivityTemplateSearch" />
<MenuItem ID="lblProjectTemplates" DisplayText="--Project Templates" SecurityProfileRef="" SkinRef="DefaultSkin"  NavigateUrl="${dc:NPD}/MainPage/NPD.aspx?ContentKey=ProjectTemplateSearch" />
<MenuItem ID="lblSBTemplates" DisplayText="--Strategic Brief Templates" SecurityProfileRef="" SkinRef="DefaultSkin"  NavigateUrl="${dc:NPD}/MainPage/NPD.aspx?ContentKey=StrategicBriefTemplateSearch" />
<MenuItem ID="lblIdeaTemplates" DisplayText="--Idea Templates" SecurityProfileRef="" SkinRef="DefaultSkin"  NavigateUrl="${dc:NPD}/MainPage/NPD.aspx?ContentKey=IdeaTemplateSearch" Visible="${fc:Portal.SideNav.NPD.Idea.Enabled}" />
<MenuItem ID="lblTemplateMaintenance" DisplayText="--Template Maintenance" SecurityProfileRef="" SkinRef="DefaultSkin"  NavigateUrl="${dc:NPD}/MainPage/NPD.aspx?ContentKey=TemplateMaintenance" />
</MenuItem>

หลังจากนั้น ต้องทำการ Restart IIS Service และทดสอบผลต่อไป

RemotingContainer Service May Not Start Due to Event Viewer Log File Being Full


Applies to:
Oracle Agile Product Data Management for Process - Version: 6.0.0.3 and later [Release: 6.0.0.0 and later ]
Information in this document applies to any platform.
Symptoms
After configuring Content Synchronization and Syndication (CSS), the RemotingContainer service may
sporadically fail to start.
The following error message appears in the remotecontainer-stdout.log file,
"System.Net.Sockets.SocketException: Only one usage of each socket address (protocol/network address/port)
is normally permitted at RemotingContainer.RemotingContainer.RunRemoteServer_Internal()."
An additional symptom of the syndication event log file being full is the error message listed below (from the
Windows application event log):
The description for Event ID ( 0 ) in Source ( Syndication Services ) cannot be found. The local computer may
not have the necessary registry information or message DLL files to display messages from a remote computer.
You may be able to use the /AUXSOURCE= flag to retrieve this description; see Help and Support for details.
The following information is part of the event: System.ComponentModel.Win32Exception: The event log file is
full
at System.Diagnostics.EventLog.InternalWriteEvent(UInt32 eventID, UInt16 category, EventLogEntryType type,
String[] strings, Byte[] rawData, String currentMachineName)
Steps to Reproduce:
1. Start > Settings > Control Panel > Administrative Tools > Services.
2. Select 'RemotingContainer' Service
3. Click Start.
4. RemotingContainer service fails to start.

Business Impact:
When the remoting container is not running, there are a number of specialized background processes that will
not work. For example, it is not possible to transfer admin data from one environment to another
environment.


Cause

As CSS polls every 5 minutes generating a large number of information events in the Syndication event log, the
log can become full in less than 7 days. The full event log, in turn, prevented the remoting container service
from starting correctly resulting in the error,
"System.Net.Sockets.SocketException: Only one usage of each socket address (protocol/network address/port)
is normally permitted at RemotingContainer.RemotingContainer.RunRemoteServer_Internal()."

Solution
It is necessary to ensure that the event log will not become full too quickly without the option to write to the
log. For this reason, follow the procedure below to change any event log that will become full in less than 7
days:
1. Navigate to Event Viewer - Start > Settings > Control Panel > Administrative Tools > Event viewer or
Navigate to Start > Administrative Tools > Event Viewer
2. Right mouse click on the syndication event log and choose properties.
3. Change the syndication event log option from "Overwrite events older than 7 days" to "Overwrite events as
needed".
4. Click OK to save the change.

Note
: If you would still like to maintain a 7 day log, another option would be to increase the size of the log
file. The option to change the event log size is also found under the properties of the event log.

Syndicate Internal Reconciler Stopped with Error, 'Css:Syndicationresponse/Css:Header/Css:Messageidentifier' Cannot Be Null

Applies to:
Oracle Agile Product Data Management for Process - Version: 6.0.0.4 and later [Release: 6.0.0.0 and later ]
Information in this document applies to any platform.

Symptoms
Syndication was working fine initially but suddenly began to produce an error causing the RemotingContainer
service to abort.
Xeno.Prodika.Common.AssertionException: Value 'css:syndicationResponse/css:header/css:messageIdentifier'
cannot be null
at Xeno.Prodika.Common.Assert.Fail(String msg)
at Xeno.Prodika.Common.Assert.NotNull(String name, Object value)
at Xeno.Prodika.CSS.Reconciliation.CrossReferenceResponse.get_CorrelationID()
at Xeno.Prodika.CSS.Reconciliation.StandardCssReconciler.GetStandardSql(ICollection responses)
at Xeno.Prodika.CSS.Reconciliation.StandardCssReconciler.LoadRelatedTips(ICollection responses)
at Xeno.Prodika.CSS.Reconciliation.StandardCssReconciler.Reconcile()
at Xeno.Prodika.CSS.Service.StandardCssService.ReconcileTips(String cssNamespace)
at Xeno.Prodika.CSS.Syndication.CssTipReconciliationPoller.PerformPoll(IPollingSyndicateConfig args)
at Xeno.Prodika.Services.Syndication.SingleThreadedPollerBase.Poll(Object args)
at Xeno.Prodika.Services.Syndication.PollingSyndicate.Poll()
at Xeno.Prodika.Services.Syndication.PollingSyndicate.OnTimeElapsed(Object source)
----------------
Syndicate state
----------------
Name: Internal_Reconciler
Last Run: 10/21/2011 11:03:11 AM
Poll count: 0
Polling Frequency: 300000
Start Point: 10/21/2011 11:03:11 AM
Start Date: 12/19/2005 9:36:00 PM
Timestamp: 10/21/2011 11:03:11 AM
Steps to Reproduce:
1. Creating ingredient specs.
2. Adding publication when its in draft status.
3. Upon approving the ingredient specification, publication automatically moves Stage for Syndication status.
4. RemotingContainer service stops and needs to be restarted.

Cause
Syndicate Internal Reconciler stopped due to invalid data in the inbound data directory (e.g. CSS/in) which
could not be processed.
Solution
1. Clear the contents of the inbound data directory. This directory is specified in the CSSLibConfig.xml
configuration file.

To check the configuration of the CSSLibConfig.xml, the file is located in the directory: %PRODIKA_HOME%
\Config\Extensions\.

The inbound data directory is where the Transactive Item Publications (TIPs) are stored (in xml format)
containing data that is imported into PLM for Process.
2. Restart the RemotingContainer service (Start > Control Panel > Administrative Tools > Services > Select
RemotingContainer Service, press right mouse key and select "Start" from the context menu).

Monday, March 25, 2013

กาแฟนั้นมีประโยชน์และดีอย่างไร?

หลังจากตื่นนอนตอนเช้าได้กาแฟหอมๆสักแก้ว จะรู้สึกกระชุ่มกระชายตลอดทั้งเช้า บางท่านรับกาแฟและขนมบางอย่างเป็นอาหารเช้า หลังจากทำงานก็ยังมี coffee break บางท่านยังดื่มหลังอาหารเที่ยงและตอนสายๆ ยิ่งต้องเข้าประชุมกาแฟหอมๆสักแก้วจะทำให้สดชื่นหายง่วง

ปัจจุบันการดื่มกาแฟเป็นที่นิยมการอย่างแพร่หลายตามปั้มน้ำมัน ตามห้างสรรพสินค้ามีการขายอย่างมากมาย จะเห็นได้ว่ากาแฟเป็นส่วนหนึ่งหรือบางคนอาจจะเป็นส่วนสองส่วนสามของชีวิตประจำวัน แต่จะมีใครกังวลหรือไม่ว่าที่เราดื่มทุกวันวันละหลายแก้วแล้วมันมีโทษ หรือคุณประโยชน์อะไรบ้าง หากคุณเป็นคอกาแฟคุณควรจะอ่านบทความนี้

ส่วนประกอบที่สำคัญของกาแฟ ส่วนประกอบที่สำคัญของกาแฟคือ caffeine หรือมีชื่อทางเคมีว่า 1,3,7-trimethylxanthine ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของยาขยายหลอดลม theophylline caffeine สามารถพบได้ในหลายชนิด ได้แก่ เมล็ดคา เมล็ดกาแฟ ใบชา โคลา caffeine ถูกผสมลงในน้ำอัดลม ยาแก้หวัดบางชนิด ยาแก้ปวด ยาลดน้ำหนัก กาแฟจะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วหลังจากที่เราดื่มกาแฟ และจะถูกขับออกไปครึ่งหนึ่งในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมงกาแฟจะไม่สะสมในร่างกายโดยจะถูกทำลายและขับออกหมด

ผู้ที่สูบบุหรี่ จะมีการขับถ่ายกาแฟมากกว่าผู้ที่ไม่สูบดังนั้นคนที่สูบบุหรี่หากต้องการการกระตุ้นของกาแฟจะต้องดื่มกาแฟบ่อยกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ คนท้องและผู้ที่กินยาคุมกำเนิดจะมีการขับกาแฟน้อยกว่าคนทั่วไป กาแฟจะออกฤทธิ์โดยการกระตุ้นสมองทำให้รู้สึกสดชื่นและมีสมาธิ ปริมาณcaffeine ที่มีในเครื่องดื่มแต่ละชนิดขึ้นกับความเข้มข้น ตารางข้างล่างเป็นตัวอย่างปริมาณกาแฟ นักวิทยาศาสตร์ประมาณว่า วันหนึ่งๆเราจะรับสาร caffeine ประมาณ 250-600 มก.ซึ่งไม่เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกาย ผลดีของกาแฟ กาแฟจะกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางทำให้ไม่ง่วง สมาธิในการทำงานดีขึ้น ผู้ที่ดื่มกาแฟจะทำให้ไม่ง่วงนอน มีสมาธิในการทำงาน และยังทำให้ความสามารถในการทำงานดีขึ้น และยังลดอาการปวดเมื่อยเนื่องจากไขหวัด ผลต่อสมรรถภาพของร่างกายดีขึ้น เช่นการขี่จักรยาน การว่ายน้ำ เล่นกีฬาได้นานขึ้น ผลดีของกาแฟ จะทำให้ไม่ง่วงนอนโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานเป็นกะ และช่วยลดอุบัติเหตุขณะขับรถ กระตุ้นอวัยวะของร่างกายและเพิ่มการเผาผลาญไขมันและช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย กาแฟจะมีฤทธิ์ขับปัสสาวะอ่อนๆดังนั้นขณะออกกำลังกายหรือหลังออกกำลังกายไม่ควรรับเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟเพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ

ดื่มนานๆจะติดกาแฟหรือไม่ องค์การอนามัยโลกกล่าวว่าไม่มีหลักฐานว่ากาแฟจะเป็นสารซึ่งหากดื่มนานๆแล้วจะเสพติด การดื่มกาแฟจะเป็นนิสัยมากกว่าเสพติดเนื่องจากไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณของกาแฟ และเมื่อหยุดกาแฟบางคนก็เกิดอาการปวดหรือมึนศีรษะเพียงเล็กน้อย ผลดีของกาแฟต่อสุขภาพ โรคหอบหืด มีรายงานว่าการดื่มกาแฟวันละ 3 แก้วจะลดอาการหอบหืด หากดื่มมากกว่า 6 แก้วการทดสอบสมรรถภาพปอดจะดีขึ้น กาแฟก็เหมือนกับพืชอื่นๆมีสาร flavanoid ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ การดื่มกาแฟจะลดอาการง่วงนอน และทำให้มีสมาธิในการทำงานดีขึ้นโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานเป็นกะ และลดอุบัติเหตุขณะขับขี่ กาแฟช่วยลดอาการซึมเศร้าและคลายความวิตกกังวล การดื่มกาแฟเป็นประจำจะลดอุบัติการณ์การเกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ และยังลดอุบัติการณ์ของนิ่วในถุงน้ำดี มีหลักฐานพอจะเชื่อว่าการดื่มกาแฟจะป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อดื่มวันละ 4 แก้ว

กาแฟกับสุขภาพสตรี กาแฟกับการตั้งครรภ์ The Food Standards Agency ก่อนหน้านี้มีความเชื่อว่าการดื่มกาแฟจะเป็นผลเสียต่อการตั้งครรภ์ แต่จากหลักฐานยังไม่พบผลเสียดังกล่าว ประเทศอังกฤษได้แนะนำว่า การดื่มวันละ 3-4 แก้วขณะตั้งครรภ์ไม่เกิดผลเสีย สำหรับผู้ที่ตั้งท้องหากงดได้ก็น่าจะงด การเป็นหมัน พบว่าหากดื่มกาแฟมากกว่า 1 แก้วจะมีโอกาสเกิดการเป็นหมันเพิ่มขึ้น กาแฟกับโรคกระดูกพรุน ยังมีรายงานทั้งสนับสนุนว่า การดื่มกาแฟทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน บางรายงานก็กล่าวว่าไม่เกิดโรค ผู้ที่เกิดโรคกระดูกพรุนมักจะได้รับแคลเซียมไม่พอแนะนำว่าควรจะดื่มนมเริมสำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 2 แก้วขึ้นไป

กาแฟกับโรคมะเร็ง มีรายงานจาก World Cancer Research Fund ว่าการดื่มกาแฟปริมาณปานกลางไม่มีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็ง มีรายงานกล่าวว่าการดื่มกาแฟมีผลดีต่อการป้องกันมะเร็งตับอ่อนเล็กน้อย มีรายงานว่าการดื่มกาแฟอาจจะมีผลป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ๋ .

กาแฟกับโรคหัวใจ เท่ามีรายงานขณะนี้พบว่าการดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วไม่มีความสัมพันธ์กับโรคหัวใจ การดื่มกาแฟเป็นประจำไม่ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น การดื่มกาแฟครั้งแรกจะทำให้ความดันขึ้นชั่วคราว .

กาแฟกับโรคเบาหวาน จากการศึกษาพบว่าการดื่มกาแฟจะทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินเพิ่มขึ้น 15 % กรดไขมันในเลือดเพิ่มขึ้น ฮอร์โมน epinephrine เพิ่มสูงขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน

ดื่มกาแฟ-ออกกำลังกาย “รักษาผิว”

นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันวิจัยออกมาว่า กาแฟวันละแก้วช่วยป้องกันผิวจากแสงอาทิตย์ จากการศึกษาทดลองในหนู ของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ พบว่า สามารถป้องกันเซลล์ก่อมะเร็งเพิ่มขึ้นได้ถึง 400% ทีเดียว ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ของอังกฤษได้เตือนว่า แม้ว่ากาแฟจะช่วยป้องกันผิวจากแสงแดด แต่ไม่ได้เป็นตัวแทนของการป้องกันแดดแต่อย่างใด จึงไม่ควรออกไปเดินกลางแดดโดยไม่ปกป้อง แม้ว่าจะดื่มกาแฟไปแล้ว 1 ถ้วยก็ตาม ส่วนการออกกำลังกายครั้งละไม่น้อยกว่า 30 นาที สัปดาห์ละอย่างน้อย 3 ครั้ง จะช่วยให้เลือดสูบฉีดไหลเวียนดี ทำให้ผิวพรรณผ่องใส เพื่อเป็นการรักษาผิวได้อีกทางหนึ่ง กาแฟกับความทรงจำของผู้หญิง นักวิจัยชาวฝรั่งเศสได้ทำการวิจัยกับผู้หญิงที่มีอายุ 65 ปี และสาวๆ (เหลือน้อย) ที่มีอายุมากกว่านั้น ที่ดื่มกาแฟมากกว่า 3 แก้วต่อวัน และผู้ที่ดื่มเพียงแก้วเดียวต่อวัน หรือไม่ดื่มเลย พบว่า ในกลุ่มของผู้ที่ดื่มกาแฟมาก มีความจำดีกว่าผู้ที่ดื่มน้อยถึง 4 ปี และจากการทดลองยังพบว่า กาแฟมีแนวโน้มที่ช่วยป้องกันอาการวิกลจริตด้วย อ้าว... ใครรู้ตัวว่ามีแนวโน้มขี้หลงขี้ลืม มีข่าวดีแล้ว

วิธีป้องกัน"โรคอัลไซเมอร์"ด้วยวิธีอย่างง่าย 4 วิธี

วิธีป้องกัน"โรคอัลไซเมอร์"ด้วยวิธีอย่างง่าย 4 วิธี

1.การศึกษาค้นคว้าจากวิจัยหลายชิ้น ชี้ให้เห็นว่า เมื่อคนที่ขี้เกียจออกกำลังกาย หันกลับมาเล่นฟิตเนส และออกกำลังอย่างจริงจัง ไม่เพียงที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อแขน และขา แข็งแรงขึ้น แต่ยังช่วยกระตุ้นระบบส่วนสำคัญของสมองให้ทำงานได้ฉับไวมากขึ้น โดยดอกเตอร์ แกรี สมอล ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและดูแลด้านความเป็นอยู่ให้ยาวนาน ของมหาวิทยาลัย ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ แคลิฟอร์เนีย วิทยาเขต ลอสแองเจลิส หรือ ยูซีแอลเอ เปิดเผยว่า การออกกำลังกายจะช่วยให้คุณสามารถสร้างความแข็งแรงของสมองไม่ให้เป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องโหมออกกำลังกายอย่างหนัก เหมือนกับนักไตรกีฬา เพียงแต่คุณค่อยๆ เริ่มสร้างมันอย่างช้าๆ และค่อยๆเพิ่มขึ้น

2.การฝึกปัญญาอาจทำให้สมองของคุณได้รับการกระตุ้นให้ทำงานดีขึ้นบ่อยครั้ง บางคนกล่าวว่า การเล่น"ครอสเวิร์ด"หรือ เกมส์ปริศนาอักษรไขว้ จะช่วยในเรื่องการเพิ่มสมาธิ แต่การออกกำลังกายด้านจิตใจจะช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ดีกว่า ดอกเตอร์ สมอล แนะนำให้ใช้เวลาคุยกับเพื่อนให้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องใดก็ตาม เช่น สังคม การเมือง หรือบันเทิง ยิ่งคุณหลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียวมากเท่าไร คุณจะห่างใกลจากโรคอัลไซเมอร์ โดยการศึกษาระบุว่า การมีสังคม และได้อยู่กับเพื่อนฝูงจะช่วยให้คุณลดความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าได้มากถึงร้อยละ 60

3.การกินอาหารที่ดี และมีประโยชน์ต่อสมอง แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องกินให้มาก โดยเฉพาะ หากคุณมีน้ำหนักมาก และอยู่ในช่วงวัยกลางคน จะส่งผลให้มีความเสี่ยงมากถึง 2 เท่าที่จะเป็นโรคซึมเศร้า ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณเป็นโรคอ้วนอยู่แล้ว คุณอาจมีความเสี่ยงมากถึง 4 เท่า ที่จะเป็นโรคดังกล่าวได้ง่าย ดอกเตอร์ สมอล แนะนำให้คุณควรกินอาหารให้พอเหมาะ รวมถึงหาอาหารที่สดใหม่ หรือพวกปลา ซึ่งจะช่วยให้คุณลดความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน เนื่องจากเป็นสาเหตุสำคัญในการเป็นโรคอัลไซเมอร์

4. การบริหารจัดการความเครียดให้ดี อาจเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เลี่ยงการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ โดยการศึกษาระบุว่าคนที่เป็นโรคเครียดได้ง่ายจะมีอัตราที่เป็นโรคดังกล่าวได้มากถึง2เท่า โดยใช้เวลาไม่เกิน 5 ปี ทางผู้วิจัยแนะนำว่า การนั่งสมาธิจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมระบบความจำได้ดีขึ้น หรืออาจจะเล่นไทเก็ก หรือแม้กระทั้่งการเดินออกไปคุยกับเพื่อน หลังอาหารค่ำ จะทำให้ลดความเครียดลงได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นด้วยวิธีไหน ก็อย่าเพิ่งไปเครียดกับวิธีที่แนะนำมาข้างต้น เพียงแต่คุณค่อยๆ ทำวันละนิด แล้วสุขภาพคุณก็จะห่างไกลจาก โรคอัลไซเมอร์ ได้

บันไดสี่ขั้นสู่การเป็นยอดนักจูงใจ

เวิร์คไหม Work from Home

เวลาหายไปไหน

ความท้าทายของฝ่ายไอทีกับการใช้อุปกรณ์พกพาในองค์กร